6 เดือนแรกของชีวิต หนูน้อยจะดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นอาหารบำรุงร่างกาย เมื่ออายุครบ 6 เดือน แล้วจำเป็นต้องกินอาหารเสริมตามวัย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาการร่างกายและสมอง ซึ่งอาหารของลูกเมื่อเริ่มรับประทานแนะนำเป็นอาหารย่อยง่าย ดังนี้ค่ะ
1.ข้าว
ข้าวไทยจัดเป็นกลุ่มอาหารธัญพืชที่เหมาะสมสำหรับทารกมากที่สุด เพราะข้าวไทยที่มีโปรตีนชนิดที่ทำให้ลูกน้อยเกิดอาการแพ้ น้อยกว่า ธัญพืชที่นิยมในประเทศแถบตะวันตก เช่น กลุ่มข้าวสาลี ข้าวไทยมีหลากหลายให้เลือกรับประทาน ได้แก่ ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวมันปู ข้าวเจ้าหอมนิล ข้าวกล้องงอก
2.น้ำผลไม้
น้ำผลไม้สำหรับเด็กๆ ควรหลีกเลี่ยงจากน้ำผลไม้สำเร็จรูป น้ำผลไม้กระป๋อง เพราะ มีส่วนผสมของสารกันบูด ถึงจะเป็นน้ำผลไม้100%ก็ตาม มีสารกันบูดผสมด้วยจึงไม่ปลอดภัย คุณแม่ควรคั้นเองสดๆให้ลูกดื่มจะได้รับวิตามมิน มากกว่า
3.ซุปผัก ซุปกระดูก
ซุปเป็นสุดยอดอาหารของเด็กๆทุกช่วงวัย เพื่อเป็นการป้องกันการขาดน้ำ หรือเด็กที่ดื่มน้ำน้อย ควรทำซุปให้รับประทานนอกจากจะได้รับวิตามินแล้ว ยังชดเชยการสูญเสียน้ำในร่างกายอีกด้วย
4.พืชตระกูลถั่ว เมล็ดธัญพืช
อาหารกลุ่มนี้อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วชิกพี ถั่วสปลิท ลูกเดือย ควรเริ่มด้วยการบดก่อน ให้อย่างระมัดระวัง พืชตระกูลมีโปรตีนมากมายก็จริงแต่สำหรับเด็กบางคนอาจแพ้ได้ง่าย หากพบว่าแพ้ ธัญพืชอื่นๆก็ควรทดสอบก่อนเช่นกัน
5.น้ำต้มสุก
น้ำต้มสุกไม่จำเป็นต้องอุ่น น้ำเป็นส่วนสำคัญ ของร่างกาย คุณแม่ควรดูแลให้ลูกน้อยได้รับน้ำตลอดทั้งวัน แต่ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำทีละมากๆ ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะแต่ดื่มบ่อยครั้ง เพื่อช่วยในกระบวนการเมตะบอลิซึม หรือการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยซะล้างสารพิษ สร้างความสมดุลย์ภายในร่างกาย
6.ผัก
อุดมไปด้วยวิตตามินและเกลือแร่ เริ่มต้นด้วยการนึ่งและบดผสมในอาหาร ส่งเสริมการรับประทานผักให้ลูกเป็นนิสัย รักการกินผัก เช่น ผักตำลึง ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ผักโขม ปวยเล้ง บ็อคชอย แครอท ฟักทอง ไชเท้า ฟักขาว แตงกวา แตงร้าน ฟักทอง ฟักเขียว ถั่วแขก ถั่วฟักยาว ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี มะรุม ยอดมะระ ผักหวาน ข้าวโพดอ่อน เห็ด หัวหอมใหญ่ บล็อกโครี่ กะหล่ำดอก ควรเลือกผักออร์แกนิกและล้างเบคกิ้งโซดา หรือ น้ำยาแช่ผัก ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆรอบ เพื่อชะล้างสารพิษ
7.ผลไม้
อโวคาโด และกล้วยน้ำว้าจัดเป็นอาหารท็อปฮิต แสนอร่อยๆของเด็กๆวัย 6 เดือนขึ้นไป แต่ระวังเรื่องติดรสหวานจากกล้วยจนไม่ยอมรับประทานอาหารอย่างอื่น สำหรับผลไม้เนื้อแข็งควรเริ่มต้นด้วยการนึ่งและปั่น หรือบดละเอียดให้ลูกรับประทาน ถ้าเริ่มมีฟันกันแล้ว คุณแม่สามารถเริ่มผลไม้เนื้อแข็งได้เลย อาจจะผสมผลไม้ดังกล่าวในอาหาร หรือให้เด็กรับประทานเป็นของว่าง เช่น แอปเปิ้ล ลูกแพร์ สาลี มะม่วงสุก แก้วมังกร เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงแคลตาลุปเพราะปนเปื้อนยาฆ่าเเมลงค่อนข้างสูง
8.ไข่
เป็นอาหารที่วิเศษสำหรับเด็กๆที่คุณแม่หลายคนมองข้าม ไข่อุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีน ช่วยเสริมสร้างความเเข็งแรงของร่างกาย โดยเฉพาะ ระบบโครงร่างกระดูก ควรเริ่มไข่แดงเมื่อ 6เดือนขึ้นไปและไข่ขาว เมื่อ 12 เดือนขึ้นไป เพราะเด็กเสี่ยงต่อการแพ้โปรตีนจากไข่ขาวได้
9.เนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์จัดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน แต่ ควรเริ่มทีละน้อยๆเมื่ออายุ 8 เดือน เพราะเนื้อสัตว์บางชนิดย่อยยาก ย่อยง่ายที่สุดได้แก่เนื้อปลา ปลาน้ำจืดเริ่มเมื่อ 8 เดือนขึ้นไป ปลาน้ำจืดเช่น ปลาทับทิม ปลาเนื้ออ่อน ปลาสวายปลากราย ปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาคัง ส่วนปลาทะเล ควรเริ่มเมื่ออายุ 12เดือนขึ้นไป เพราะเสี่ยงต่อการแพ้อาหารทะเลได้ คุณแม่หลายคนอาจเริ่มอาหารประเภทนี้ก่อน 8 เดือนไม่ผิดแต่อย่างใด แต่ควรสังเกตการขับถ่ายของลูก ร่วมด้วย หากมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายให้งดและเริ่มเมื่อ 8 เดือนจะดีที่สุด