ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ทุกคนย่อมสรรหาอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ด้วย เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารบำรุงสมองมีร่างกายเเข็งแรง อาหารวิตามินสูงและเป็นที่นิยมในกลุ่มแม่ตั้งครรภ์อีกหนึ่งเมนูคือ อินทผาลัม อินทผาลัมจัดเป็นผลไม้ให้ความหวาน หลายคนเข้าใจผิด ผ่านนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาลแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ อินทผาลัมที่มีรสหวานๆนั้นเป็นรสธรรมชาติที่ไม่ได้ปรุงเเต่ง อินธผลัมมีวิตามินสูงมากมายหลายชนิดแต่ที่ดีโดดเด่นสูงสุด 8 ชนิด เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์อย่างยิ่ง ก่อนตั้ดสินใจรับประทานเรามาดูว่า อินทผาลัมให้สารอาหารอะไรบ้าง
สารอาหารที่แม่ตั้งครรภ์จะได้รับ เทียบจากอินทผาลัม 100 กรัม
ให้พลังงานสูง 282 กิโลแคลอรี่ นับว่าสูงเลยทีเดียว ในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 หรือประมาณ 500 กิโลแคลอรีต่อวัน เพื่อให้ได้สารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ที่เพียงพอต่อทั้งสองชีวิต ลูกจะได้รับสารอาหารและพลังงานทั้งหมดผ่านสายสะดือจากคุณแม่ตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน ในคุณแม่ให้นมบุตรก็เช่นกันต้องสระสมพลังงานให้เพียงพอกับการเลี้ยงลูกและการผลิตน้ำนมในแต่ละวัน อินทผลัมมีวิตามินโดดเด่นต่อแม่ตั้งครรภ์ได้แก่
1.มีโปรตีน (Protein) 2.5 กรัม
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายเจริญเติบโต กรดอะมิโนที่อยู่ในโปรตีนจะเสริมสร้างส่วนต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ให้เจริญเติบโตสมบูรณ์ โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์และเนื้อเยื่อ ซึ่งจะประกอบกันเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก และอวัยวะภายในต่าง ๆ ของรางกาย
2.มีเส้นใยอาหาร (Fiber) 8 กรัม
ไฟเบอร์ช่วยให้แม่ตั้งครรภ์อิ่มนานขึ้น น้ำหนักไม่พุ่งพรวด ไฟเบอร์ยังช่วยในระบบการย่อยอาหาร ปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ทำให้ลดอาการท้องผูกของแม่ตั้งครรภ์และส่งเสริมระบบขับถ่ายของแม่ตั้งครรภ์ให้ดีขึ้น
3.มีน้ำตาล 63.35 กรัม
ในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้น น้ำตาลที่ได้จากอินผาลัม ช่วยให้พลังงานได้เร็วที่สุด แต่เป็นน้ำตาลฟรุกโตส หรือ ฟรักโทส (fructose หรือ fruit sugar) เป็นน้ำตาลพื้นฐาน โมโนแซ็กคาไรด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของน้ำตาลในเลือดที่มีความสำคัญมากที่สุด ไม่อ้วนอย่างที่คิด
4.มีโฟเลต หรือ โฟลิก 19 ไมโครกรัม
กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่จำเป็นในการสร้าง DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมจำเป็นในการแบ่งเซลล์ของทารกในครรภ์ การสร้างเม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อต่าง ๆ หากทารกขาดสารโฟเลตอาจเกิดความพิการของอวัยวะสำคัญๆได้เช่น ปากเเหว่ง เพดานโหว่ ไขสันหลังเปิด เพราะฉะนั้นแม่ตั้งครรภ์ จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารโฟเลตสูงในทุกๆวัน
5.มีธาตุเหล็ก (Iron) 1.09 มิลลิกรัม
เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกบิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำออกซิเจนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจากแม่สู่ลูกผ่านสายสะดือ
6.มีวิตามินเค (Vitamin K) 2.7 ไมโครกรัม
วิตามินเคจำเป็นในการสร้างโพรทรอมบินซึ่งเป็นสารช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วเวลาที่เกิดบาดแผล โดยเฉพาะเวลาแรกคลอดทารกตัดสายสะดือหากพร่องวิตามินเค ทำให้เกิดเลือดออกง่ายได้ แพทย์ป้องกันโดยฉีดวิตามินเคให้ทารกทุกคนหลังตัดสายสะดือ นอกจากนั้นวิตามินเคยังบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงด้วย
7.มีเมกนีเซี่ยม (Magnesium) 43 มิลลิกรัม
แมกนีเซียมช่วยลำเลียงแคลเซียมและโพแทสเซียมไอออน ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ ที่ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อและช่วยให้หัวใจ เต้นเป็นปกติ นอกจากนี้แมกนีเชี่ยมยังช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและฟันของทารกในครรภ์ด้วย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตสูงของแม่ตั้งครรภ์ด้วย
8.มีโพเเทสเซี่ยม (Potassium) 656 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม ช่วยรักษา สมดุลของน้ำในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตในแม่ตั้งครรภ์ให้ดีขึ้น ลดการเกิดความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี โพเเทสเซี่ยมยังช่วยให้แม่ตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย
ยังมีรายงานจาก Journal of Obstetrics and Gynecology, 2011 ว่าแม่ท้องที่รับประทานอินทผลัมอยู่บ่อยๆช่วยลดการตกเลือดหลังคลอด และช่วยให้ปากมดลูกขยายได้ดีขณะคลอดธรรมชาติ และลดการคลอดยาก อาหารทุกอย่างมีคุณประโยชน์และอาจมีโทษได้ การรับประทานอินทผลัมในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ช่วยส่งเสริมให้แม่และลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง แต่หากรับประทานมากเกินจำเป็น อาจทำให้คุณแม่น้ำหนักพุ้งพรวดได้