ขวดนม ของลูกน้อยมีหลายแบบให้เลือกใช้นะคะ แต่ละแบบการใช้งานก็แตกต่างกัน ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกขวดนมให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อยด้วยค่ะ การเลือกขวดนมให้ลูกต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? มาดูกันค่ะ
1. ขนาดความจุ ซีซี
ต้องดูว่าขวดนมที่ต้องการให้ลูกใช้มีขนาดเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ปกติแล้วขวดนมจะมีขนาดดังนี้ 2,4 และ 8 ออนซ์ปกติแล้วคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกใหม่ ๆ จะใช้ขวดนมที่มีขนาด 4 ออนซ์ เป็นส่วนใหญ่ และหลังจากลูกใช้ไปแล้วประมาณ 5-6 เดือน ค่อยดูพฤติกรรมลูกว่าลูกเป็นเด็กกินมากหรือน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นเด็กที่กินจุก็จะเปลี่ยนเป็นขนาด 8 ออนซ์ค่ะ
2. ขวดนมแก้ว
อาจจะแพงซักหน่อยแต่ใช้คุ้มแน่นอนค่ะ ข้อดีของการใช้ขวดนมแบบแก้วคือ การทำความสะอาดจะทำได้ง่ายและสะอาดแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะนำไปต้ม หรือ นึ่ง แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันค่ะ คือ อาจแตกได้ง่าย ช่วงที่ลูกยังจับขวดนมเองไม่ได้ จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แต่ถ้าลูกโตขึ้นวุ่นวายแน่นอนค่ะ
3. ขวดนมพลาสติก
มีข้อดีเรื่องความปลอดภัย ถ้าลูกโยนทิ้งก็ไม่แตกไม่เป็นอันตรายกับลูกแน่นอนค่ะ หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงมากค่ะ แต่ข้อเสียคือ เมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้ว สีของขวดนมจะเปลี่ยนไป สีจะหมอง ๆ มองไม่ชัดว่าทำความสะอาดทั่วหรือยังค่ะ
4. ขวดนมสำหรับเด็กโคลิก
คือขวดนมที่ทำมาเพื่อเด็กที่ร้องงอแงมาก ๆ ช่วง 3 เดือนแรก เป็นขวดนมที่ทำให้เด็กกินนมแล้วเกิดก๊าซในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด เพราะเด็กที่ร้องโคลิกส่วนมากจะเกิดจากอาการปวดท้องจากการเกิดก๊าชในกระเพราะอาหารนั่นเองค่ะ
5. ควรเลือกขวดนมที่ไม่มีสาร BPA
เพราะสารนี้จะทำให้พัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกไม่พัฒนาหรือพัฒนาช้า สารนี้จะไปเคลือบผิวขวดนมไม่ให้เปราะบางและทำให้ขวดนมใสแข็งแรง แต่ก็มีผลเสียอยู่ ดังนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรให้ลูกใช้ขวดนมที่มีสาร BPA นี้ ก่อนอายุ 1 ปีค่ะ
ดังที่กล่าวมานั้น เป็นวิธีการเลือกขวดนมที่เหมาะสมให้ลูก แต่คุณแม่ยุคใหม่หลายท่านในปัจจุบันนิยมให้ลูกกินนมแม่เป็นส่วนใหญ่ดังนั้นขวดนมลูกจึงไม่จำเป็นมากนัก เด็ก 1 คนมีขวดนมเพียง 2-3 ขวดก็เพียงพอแล้วค่ะ