การผ่อนลมหายใจให้ช้าลงเป็นจังหวะ ก็เพื่อให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น และดีกับแม่ท้องที่กำลังเตรียมพร้อมกับการคลอด ข้อดีอีกอย่างของการฝึกลมหายใจก็คือ เป็นการฝึกสมาธิเบื้องต้น ทำให้ใจเราสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ลืมความเครียด วิตกกังวลได้ เกิดปัญญา มีสติ ลองดูวิธีง่ายๆ ที่คุณนำไปฝึกกันได้ค่ะ
1. นั่งผ่อนลมหายใจ
นั่งท่าสบายๆ หลังตรง สูดลมหายใจเข้าให้เต็มที่ แล้วปล่อยออกทางปากช้าๆ หายใจออกได้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประมาณ 20 ครั้ง จนรู้สึกดี และผ่อนคลาย วิธีนี้ร่างกายก็ได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้รู้สึกสบาย สมองปลอดโปร่งขึ้น
2. แขม่วท้อง
โดยการเกร็งหน้าท้องเอาไว้ นับ 1, 2, 3 แล้วปล่อย ไม่ควรค้างนาน เพราะจะเป็นลักษณะของการกลั้นหายใจ อาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องตึงเครียดเกินไป ทำขณะนั่งหรือยืนก็ได้ เพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง สอดรับกับการพยุงน้ำหนักครรภ์ ป้องกันการแอ่นของหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดหลัง
3. ยืดต้นคอและหัวไหล่
เอามือประสานกันโดยวางที่ท้ายทอย แล้วสูดลมหายใจเข้า ค่อยๆ ใช้มือกดศีรษะให้ก้มลงจรดหน้าอก พร้อมกับปล่อยลมหายใจออก ทำช้าๆ แล้วหายใจเข้า ยืดคอ เงยหน้าเต็มที่แล้วหายใจออก พักหายใจเข้า-ออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง
4. หายใจด้วยหน้าท้อง
นอนลงแล้ววางมือบนหน้าท้อง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยช้าๆ ให้หน้าท้องขยายโตขึ้น ขณะเดียวกันก็หายใจออกทางปาก ทำสลับกัน 10 ครั้ง วิธีนี้ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกระบังลม จากการตึงตัวของมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้น
5. ยืดกล้ามเนื้อส่วนท้อง
นอนหงาย ชันเข่าทั้ง 2 ข้าง ให้งอขาข้างหนึ่งเข้ามาใกล้อก กระดกปลายเท้าแล้วเหยียดออกไปตรงๆ วางขาลงช้าๆ แล้วคลายข้อเท้ายกขึ้นชันเข่าในท่าเดิม (สลับทำอีกข้างหนึ่ง) ท่านี้จะบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ต้นขา ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดการเป็นตะคริว และความเมื่อยล้าของขา
6. ยืดกล้ามเนื้อขา
เอาหลังชนผนังห้อง ย่อตัวลงเล็กน้อย ประคองตัวเอาไว้ โดยแยกเท้าออกจากกันประมาณ 1 ฟุต แล้วค่อยๆ ยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจเข้า ย่อตัวลงพร้อมปล่อยลมหายใจออก สูดลมหายใจเข้า พร้อมยืดตัวขึ้นช้าๆ และพัก ผ่อนลมหายใจออก ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง